Wi-Fi Router กับ Access Point ต่างกันอย่างไร?

   ความแตกต่างระหว่าง Wi-Fi Router กับ Access Point คือ Wi-Fi Router เป็นอุปกรณ์ที่รวมหลายฟังก์ชั่นในตัวเดียว เช่น สามารถเป็นตัวตรวจจับสัญญาณ Internet (MODEM) และเป็นตัวกลางในการแบ่งปันสัญญาณ Wi-Fi ให้กับอุปกรณ์ในเครือข่าย ทีมีการจัดการและควบคุมการเชื่อมต่อเครือข่าย และการกำหนดค่าเครือข่ายได้ แต่ Access Point เป็นอุปกรณ์ที่ใช้เพิ่มสัญญาณ Wi-Fi ในเครือข่ายที่มีอยู่แล้ว โดยอาจเชื่อมต่อกับเครือข่ายในโหมดไร้สายหรือผ่านสาย Ethernet ซึ่งจะช่วยขยายขนาดของเครือข่ายไวไฟให้ครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น Access Point ไม่มีฟังก์ชั่นเป็นตัวตรวจจับสัญญาณ Internet และไม่มีการจัดการเครือข่ายแบบภายใน

Wi-Fi Router และ Access Point มีความแตกต่างกันในหลายด้าน นี่คือคำอธิบายแบบละเอียดเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างทั้งสอง:

1. ฟังก์ชันหลัก :

Wi-Fi Router: Wi-Fi Router เป็นอุปกรณ์ที่รวมหลายฟังก์ชั่นในตัวเดียว เช่น การตรวจจับสัญญาณ Internet (modem) และเป็นตัวกลางในการแบ่งปันสัญญาณ Wi-Fi ให้กับอุปกรณ์ในเครือข่าย นอกจากนี้ยังมีการจัดการและควบคุมการเชื่อมต่อเครือข่าย และการกำหนดค่าเครือข่ายได้
Access Point : Access Point เป็นอุปกรณ์ที่ใช้เพิ่มสัญญาณ Wi-Fi ในเครือข่ายที่มีอยู่แล้ว โดยอาจเชื่อมต่อกับเครือข่ายในโหมดไร้สายหรือผ่านสาย Ethernet เพื่อขยายขนาดของเครือข่าย Wi-Fi อย่างไรก็ตาม Access Point ไม่มีฟังก์ชั่นเป็นตัวตรวจจับสัญญาณ Internet และไม่มีการจัดการเครือข่ายแบบภายใน

2. การเชื่อมต่อและการทำงาน :

Wi-Fi Router: Wi-Fi Router เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ในเครือข่ายผ่านการใช้งานส่วนของ LAN (Local Area Network) และส่วนของ WAN (Wide Area Network) เพื่อเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต อีกทั้งมีการทำงานในโหมดเราท์เตอร์ (Router Mode) เพื่อส่งสัญญาณไปยังเครือข่ายภายนอก

Access Point: Access Point ทำงานโดยเป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Wi-Fi ในระยะใกล้เคียง โดยสร้างเครือข่ายไร้สายขึ้นมาเพื่อให้อุปกรณ์ในเครือข่ายสามารถเชื่อมต่อกับสัญญาณ Wi-Fi ได้

3. ความสามารถในการจัดการและควบคุม :

Wi-Fi Router: Wi-Fi Router มีความสามารถในการจัดการและควบคุมเครือข่ายแบบภายใน ผู้ใช้สามารถกำหนดค่าการตั้งค่าเครือข่าย Wi-Fi, การตั้งค่าการรักษาความปลอดภัย และการกำหนดความเร็วของเครือข่ายได้
Access Point: Access Point มีความสามารถในการกำหนดค่าเครือข่าย Wi-Fi เพียงอย่างเดียว โดยต้องผ่านการกำหนดค่าจาก Wi-Fi Router หรืออุปกรณ์จัดการเครือข่ายอื่น ๆ

4. การใช้งานในองค์กรหรือบริษัท :

Wi-Fi Router: Wi-Fi Router ใช้งานบ่อยที่สุดในบริษัทหรือองค์กรที่มีคนใช้งานหลายคน โดยเฉพาะในสถานที่ที่ต้องการการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่มีความปลอดภัยและการจัดการเครือข่ายที่ซับซ้อน
Access Point: Access Point ใช้งานบ่อยที่สุดในบริษัทหรือองค์กรที่ต้องการเพิ่มความสะดวกในการเชื่อมต่อสัญญาณ Wi-Fi ในบริเวณที่มีคนใช้งานหนาแน่น โดยอาจมีหลาย Access Point เพื่อความเร็วและความเสถียรในการเชื่อมต่อ

5. ความสามารถในการรับส่งข้อมูล :

Wi-Fi Router: Wi-Fi Router มีความสามารถในการรับส่งข้อมูลระหว่างเครือข่ายอินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์ในเครือข่าย LAN โดยใช้เทคโนโลยีแบบไร้สาย Wi-Fi
Access Point: Access Point มีความสามารถในการรับส่งสัญญาณ Wi-Fi เพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์ในเครือข่ายไร้สาย แต่ไม่สามารถรับส่งข้อมูลระหว่างเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้โดยตรง ต้องผ่าน Wi-Fi Router เพื่อเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต

6. การควบคุมการเข้าถึงและความปลอดภัย :

Wi-Fi Router: Wi-Fi Router มีความสามารถในการควบคุมการเข้าถึงเครือข่ายและการปรับแต่งความปลอดภัย เช่น การตั้งค่ารหัสผ่าน Wi-Fi, การจำกัดความเร็วในการเชื่อมต่อ และการกำหนดบทบาทและสิทธิ์ของผู้ใช้
Access Point: Access Point ไม่มีความสามารถในการควบคุมการเข้าถึงและความปลอดภัย เนื่องจากมีบทบาทเพียงแค่เครื่องรับสัญญาณ Wi-Fi เท่านั้น แต่สามารถรับสัญญาณและเชื่อมต่อกับ Wi-Fi Router ที่มีการควบคุมและความปลอดภัย

7. การใช้งานแบบพกพา :

Wi-Fi Router: Wi-Fi Router มักจะมีขนาดใหญ่และอยู่ในรูปแบบที่ต้องติดตั้งและต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้ จึงไม่เหมาะสำหรับการใช้งานแบบพกพาหรือเคลื่อนย้ายได้ง่าย
Access Point: Access Point มักมีขนาดเล็กและมีความพกพาสะดวก เนื่องจากออกแบบมาเพื่อใช้เพิ่มสัญญาณ Wi-Fi เพียงอย่างเดียว สามารถนำไปใช้งานในสถานที่ต่าง ๆ หรือเคลื่อนย้ายได้ตามต้องการ

8. ความยืดหยุ่นในการกำหนดค่า :

Wi-Fi Router: Wi-Fi Router มีความยืดหยุ่นในการกำหนดค่าเครือข่าย Wi-Fi และการจัดการเครือข่ายอื่น ๆ ได้แบบละเอียด ผู้ใช้สามารถกำหนดค่าต่าง ๆ เช่น SSID, รหัสผ่าน, การจำกัดความเร็วของผู้ใช้แต่ละราย และการกำหนดการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต
Access Point: Access Point มีความยืดหยุ่นในการกำหนดค่าเพียงอย่างเล็กน้อย เนื่องจากส่วนใหญ่จะต้องผ่าน Wi-Fi Router เพื่อรับการกำหนดค่า โดยอาจจะมีการกำหนดค่าพื้นฐานเช่น SSID และรหัสผ่านเท่านั้น

9. ความเสถียรในการทำงาน :

Wi-Fi Router: Wi-Fi Router มีความเสถียรสูงและทำงานเป็นเวลานานโดยตลอด สามารถรองรับผู้ใช้หลายรายพร้อมกันและมีการจัดการแบบแกนกลางในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความเสถียรและประสิทธิภาพสูง
Access Point: Access Point มีความเสถียรที่มากกว่า Wi-Fi Router เนื่องจากมีฟังก์ชันเพียงอย่างเดียวคือการรับส่งสัญญาณ Wi-Fi ทำให้มีการทำงานที่เสถียรและมีประสิทธิภาพสูง แต่อาจจะมีปัญหาในการรองรับจำนวนผู้ใช้ที่มากเกินไป

10. การควบคุมและการจัดการ :

Wi-Fi Router: Wi-Fi Router มีความสามารถในการควบคุมและจัดการเครือข่าย Wi-Fi และอินเทอร์เน็ตในบ้านหรือองค์กร ผู้ใช้สามารถกำหนดค่าเครือข่ายได้ตามต้องการ เช่น การกำหนด IP Address, การตั้งค่าการระบายสัญญาณ Wi-Fi, การจัดสรรแบนด์วิดธ์ และการตั้งค่าความปลอดภัยเครือข่าย
Access Point: Access Point มีความยากในการควบคุมและจัดการมากกว่า Wi-Fi Router เนื่องจากมีฟังก์ชันเพียงอย่างเดียวคือเพิ่มสัญญาณ Wi-Fi เพื่อขยายพื้นที่การเชื่อมต่อ การควบคุมและการจัดการเครือข่ายต้องทำผ่าน Wi-Fi Router ที่เป็นแกนกลาง

11. ระบบเครือข่าย :

Wi-Fi Router: Wi-Fi Router เป็นส่วนสำคัญของระบบเครือข่าย มีหน้าที่ในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ในเครือข่ายเข้ากับอินเทอร์เน็ต และสร้างเครือข่าย Wi-Fi เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อและใช้งานอินเทอร์เน็ตได้
Access Point: Access Point เป็นส่วนย่อยของเครือข่าย Wi-Fi มีหน้าที่ในการเพิ่มสัญญาณ Wi-Fi เพื่อขยายพื้นที่การเชื่อมต่อ โดยอาจจะมีหลายจุดในตัวระบบเครือข่าย แต่ไม่มีหน้าที่ในการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตโดยตรง ต้องผ่าน Wi-Fi Router หรืออุปกรณ์ที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อให้สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้